ตะลุยนาโงย่าาาาาาาาาาาาา (1st TIME IN AICHI EP.1)
Day 1 Nagoya University ,Meeting the governer of Aichi prefecture
มาถึงที่สนามบิน chubu centair ประมาณ 8 โมงเช้่า ตอนนั้นง่วงมากๆเพราะได้นอนบนเครื่องแค่ชั่วโมงเดียว นอนไม่หลับเหลย ;_;
มาถึงคณะก็ไปปฐมนิเนศที่ศาลาว่าการจังหวัดไอจิเป็นที่แรก และก็ให้ทุกคนแนะนำตัว
หลังจากปฐมนิเนศเสร็จก็ไปที่มหาวิทยาลัยนาโงย่าต่อราวๆ 11 โมง เพื่อมาดูงานและพบกับรุ่นพี่คนไทยที่ได้มาเรียนที่นี่
มาถึงก็ได้รับประทานอาหารมื้อแรกในประเทศญี่ปุ่น นั่นก็ครือออ เบนโตะ
ในเชตนี้ ซุปมิโสะจะเป็นมิโสะแดง เราว่ามันค่อนข้างอร่อย(แต่เพื่อนๆคนอื่นดูไม่ค่อยชอบเพราะมันเค็ม) ส่่วนซองเหลืองๆคือเอแคลร์ (เป็นเอแคลร์จริงๆ ไม่ใช่ชูครีมที่บ้านเราเรียกกันว่าเอแคลร์) และมันอร่อยมากกกกกกกกก เป็นเอแคลร์ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา ใส้ข้างในเป็นครีมวานิลลา ด้านนอกเป็นช็อกโกเลต มันสุดยอดมากๆ
นอกจากนี้รุ่นพี่คนไทยในมหาลัยนาโงย่ายังแนะนำอีกว่า เวลากินให้คว่ำด้านที่มีช็อกโกเลตลง ลิ้นเราจะได้รับรสช็อกโกเลตแล้วมันจะอร่อยมากๆ
ระหว่างกินข้าว รุ่นพี่คนไทยที่ได้มาเรียนที่มหาลัยนี้ก็มาร่วมพูดคุยกับเด็กๆที่มากับโครงการนี้ด้วย พี่ๆ น่ารักกันมากๆเลย
ต่อไปก็ไปเยี่ยมชมนิทรรศการรางวัลโนเบลของมหาวิทยาลัยนาโงย่า
มีรางวัลที่น่าสนใจอยู่นะ เช่นการสกัดสารเรืองแสงจากแมงกระพรุน มีตัวอย่างแมงกระพรุนให้
ส่องด้วยยย
ต่อไปจะเป็นพิพิธภัณฑ์อีกฝั่งนึงของที่ตั้งนิทรรศการโนเบล เสียดายมากๆที่ข้างในไม่ให้ถ่ายรูป มันมีตุ๊กตาหุ่นยนต์แมวน้ำที่ช่วยบำบัดจิตใจของผู้ป่วยได้ และมันคาวาอิ้มากๆ หน้าตาจะประมาณนี้ แถมเจ้าอุ๋งๆยังได้รางวัล Guinness world record ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้บำบัดจิตใจได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย
ต่อไปก็ไปห้องสมุดของมหาวิทยาลัยนาโงย่าต่อ เข้าไปครั้งแรกที่เห็นคือ นักศึกษาต่างชาติเยอะมากกกกก และฝรั่งก็หล่อมากๆ
ห้องสมุดมีแบ่งเป็นหลายโซนมากๆ ทั้งโซนทำงานโดยเฉพาะ จะมีคอมให้ใช้พร้อมเครื่องพิมพ์ โซนซาวด์แลป โซนห้องประชุมที่สามารถใช้ทำงานกลุ่ม หรือติวหนังสือได้ แต่ว่าที่ห้องสมุดนี้ใช้ได้เฉพาะนักศึกษาเท่านั้นเด้อ (คนทั่วไปเข้าไปได้ แต่ใช้บริการข้างในไม่ได้ ทำได้แค่อ่านหนังสือ)
หลังจากเยี่ยมมหาลัย ก็กลับไปที่ศาลาว่าการจังหวัดไอจิอีกรอบ เพื่อเข้าเยี่ยมคราวะผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ
ได้ของที่ระลึกเป็นเครื่องรางกระดิ่งแมว (จำชื่อจริงๆไม่ได้) เหมือนแมวกวักตามร้านขายของที่เจ้าของเป็นคนจีนอะแหละ แต่มันก็จะคาวาอิ้หน่อยๆตามสไตล์ญี่ปุ่น
ต่อไปถึงเวลาอาหารเย็นแล้ววววววว ทางคณะได้พามาทานหมูทงคัตสึราดซอสมิโสะที่ร้านนี้
โรงแรมที่พักในครั้งนี้คือ Iris Aichi Hotel โดยจะใช้เวลาอยู่ที่นี่เป็นเวลาประมาณ 4-5 วัน
จริงๆแล้วหลังจากเชคอินกัน ทุกคนก็มาทัวร์รอบโรงแรมกันเล็กน้อยเพื่อสำรวจเส้นทาง แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปเหลย โทรศัพท์แบตหมด ทั้งนี้ทั้งนั้นขอตัวไปพักผ่อนก่อนเน้อ เจอกัน EP. 2 จ้าาา
>>>>>>>>>> ลิ้งค์ EP.2 จิ้มตรงนี้เลย
มาถึงที่สนามบิน chubu centair ประมาณ 8 โมงเช้่า ตอนนั้นง่วงมากๆเพราะได้นอนบนเครื่องแค่ชั่วโมงเดียว นอนไม่หลับเหลย ;_;
มาถึงคณะก็ไปปฐมนิเนศที่ศาลาว่าการจังหวัดไอจิเป็นที่แรก และก็ให้ทุกคนแนะนำตัว
หน้าศาลาว่าการ อาการโมเดิร์นมากกกกกกก
หลังจากปฐมนิเนศเสร็จก็ไปที่มหาวิทยาลัยนาโงย่าต่อราวๆ 11 โมง เพื่อมาดูงานและพบกับรุ่นพี่คนไทยที่ได้มาเรียนที่นี่
วิวบริเวณมหาลัย
ตึกเรียนภายในมหาลัย
วิวในมหาลัย ไม่บอกว่าเป็นมหาลัยนี่คงนึกว่าเป็นสวนสาธารณะ เขียวมากๆ
มาถึงก็ได้รับประทานอาหารมื้อแรกในประเทศญี่ปุ่น นั่นก็ครือออ เบนโตะ
บรรยากาศในห้องทานข้าวอืมครืมเล็กน้อย เพราะทุกคนใส่สูทหมดเลย 555
ในเชตนี้ ซุปมิโสะจะเป็นมิโสะแดง เราว่ามันค่อนข้างอร่อย(แต่เพื่อนๆคนอื่นดูไม่ค่อยชอบเพราะมันเค็ม) ส่่วนซองเหลืองๆคือเอแคลร์ (เป็นเอแคลร์จริงๆ ไม่ใช่ชูครีมที่บ้านเราเรียกกันว่าเอแคลร์) และมันอร่อยมากกกกกกกกก เป็นเอแคลร์ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา ใส้ข้างในเป็นครีมวานิลลา ด้านนอกเป็นช็อกโกเลต มันสุดยอดมากๆ
นอกจากนี้รุ่นพี่คนไทยในมหาลัยนาโงย่ายังแนะนำอีกว่า เวลากินให้คว่ำด้านที่มีช็อกโกเลตลง ลิ้นเราจะได้รับรสช็อกโกเลตแล้วมันจะอร่อยมากๆ
หน้าตาและวิธีการกิน
คนนอนตากแดดกลางสนามหญ้า
ต่อไปก็ไปเยี่ยมชมนิทรรศการรางวัลโนเบลของมหาวิทยาลัยนาโงย่า
ให้ทายว่าเจ้าของบล็อกอยู่หนายยยย
เหรียญโนเบล
แมงกระพรุน
ส่องด้วยยย
ต่อไปจะเป็นพิพิธภัณฑ์อีกฝั่งนึงของที่ตั้งนิทรรศการโนเบล เสียดายมากๆที่ข้างในไม่ให้ถ่ายรูป มันมีตุ๊กตาหุ่นยนต์แมวน้ำที่ช่วยบำบัดจิตใจของผู้ป่วยได้ และมันคาวาอิ้มากๆ หน้าตาจะประมาณนี้ แถมเจ้าอุ๋งๆยังได้รางวัล Guinness world record ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้บำบัดจิตใจได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย
หน้าพิพิธภัณฑ์
แมวน้ำข้างใน คาวาอิ้เน ~
ต่อไปก็ไปห้องสมุดของมหาวิทยาลัยนาโงย่าต่อ เข้าไปครั้งแรกที่เห็นคือ นักศึกษาต่างชาติเยอะมากกกกก และฝรั่งก็หล่อมากๆ
ห้องสมุดมีแบ่งเป็นหลายโซนมากๆ ทั้งโซนทำงานโดยเฉพาะ จะมีคอมให้ใช้พร้อมเครื่องพิมพ์ โซนซาวด์แลป โซนห้องประชุมที่สามารถใช้ทำงานกลุ่ม หรือติวหนังสือได้ แต่ว่าที่ห้องสมุดนี้ใช้ได้เฉพาะนักศึกษาเท่านั้นเด้อ (คนทั่วไปเข้าไปได้ แต่ใช้บริการข้างในไม่ได้ ทำได้แค่อ่านหนังสือ)
จุดยืม-คืนหนังสือ
โซนคอมพิวเตอร์
Front desk ห้องสมุด
หลังจากเยี่ยมมหาลัย ก็กลับไปที่ศาลาว่าการจังหวัดไอจิอีกรอบ เพื่อเข้าเยี่ยมคราวะผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ
ได้ของที่ระลึกเป็นเครื่องรางกระดิ่งแมว (จำชื่อจริงๆไม่ได้) เหมือนแมวกวักตามร้านขายของที่เจ้าของเป็นคนจีนอะแหละ แต่มันก็จะคาวาอิ้หน่อยๆตามสไตล์ญี่ปุ่น
ต่อไปถึงเวลาอาหารเย็นแล้ววววววว ทางคณะได้พามาทานหมูทงคัตสึราดซอสมิโสะที่ร้านนี้
อ่านญี่ปุ่นม่ายออก
เป็นร้านที่หมูอร่อยมาก และก็ให้หมูเยอะมากๆ จนกินไม่หมด อยากจะห่อกลับบ้าน ;_;
ดูจากรูปอาจจะดูเล็ก แต่ของจริงมันใหญ่ มากๆ ใหญ่จนน่ากลัว
เมื่อทานข้าวเสร็จก็ได้เวลาเชคอินเข้าโรงแรมแล้วววววววว หมดไปแล้ว 1 วันนนนนนน เมื่อยมากๆ เย่ ~
ห้องที่เราพักจะใหญ่กว่านี้นิดนึง โดยทางเจ้าหน้าที่จะจับคู่ให้นอนกับรูมเมท ห้องนึงนอนสองคน
>>>>>>>>>> ลิ้งค์ EP.2 จิ้มตรงนี้เลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น